ประวัติโรงพยาบาลนครพนม1
- รายละเอียด
- หมวด: ข้อมูลทั่วไป
- เผยแพร่เมื่อ: วันพฤหัสบดี, 18 กรกฎาคม 2562 15:14
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 28104
ประวัติการก่อตั้งโรงพยาบาลนครพนม
ย้อนอดีต
บันทึกที่ 1
“ เมื่อพระพนมครานุรักษ์ดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดนครพนม ได้ประกอบกิจเพื่อส่วนรวมไว้หลายประการ อาทิ ได้ดำเนินงานพยาบาลขึ้น โดยร่วมมือกับแพทย์หลวงประจำท้องที่ปรับปรุงและขยายสุขศาลาให้รับคนไข้ได้เพิ่มขึ้น และอำนวยความสะดวกทั้งในด้านสถานที่และอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังได้ดำเนินงานสร้างโรงพยาบาลประจำจังหวัด(พ.ศ.๒๔๗๖) และได้วางโครงงานสำหรับโรงพยาบาลของจังหวัด (ประชานุเคราะห์ พ.ศ.๒๔๗๙) โดยอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มสร้างตึกอำนวยการ เรือนพักผู้ช่วยชายหญิง และคงด้วยความตั้งใจและความบริสุทธิ์ที่พระพนมครานุรักษ์มุ่งช่วยเหลือประชาชน เพื่อ“บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ประชาชนในพื้นที่จึงร่วมแรงร่วมใจก่อตั้งตึก“พระพนมรำลึก”ขึ้นในโรงพยาบาล ”
(คัดลอกจาก Facebook เจริญ ตันมหาพราน เขียนไว้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2507 เรื่อง คนในตระกูล"พิศาลบุตร" คือ พระพนมนครานุรักษ์(ฮกไถ่) ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์)
บันทึก 2
จังหวัดนครพนม เป็นเมืองชายแดนทางภาคอีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง (กรุงเทพมหานคร) การคมนาคมเดินทางค่อนข้างลำบากก็ไม่สะดวกสบาย ต่ก็นับว่าเป็นเมืองชายแดนที่สำคัญ เพราะบริเวณที่ตั้งของเมืองมีประชาชนอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่นและมีการเดินทางติดต่อค้าระหว่างชายแดนไทย-ลาว
ในสมัยพระพนมครานุรักษ์ดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดนครพนม เทียบได้กับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ระหว่างปี พ.ศ.2472-2477 เมืองนครพนมมีประชาชนราว30,000 คน ด้านสาธารณสุข ทางราชการจัดสร้างสุขศาลาชั้น 1 ซึ่งมีแพทย์ประจำการ 1 คน ในด้านสถานที่ เครื่องมือ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ยังล้าหลังและไม่เพียงพอ เมื่อประชาชนเจ็บป่วย จึงมีทางเลือกที่ดีกว่าคือโรงหมอคำม่วน เมืองท่าแขก (ยุคสมัยนั้นประเทศลาวอยู่ภายใต้อารักขาของประเทศฝรั่งเศล ด้านการแพทย์การพยาบาลโรงหมอคำม่วนจะมีศักยภาพความทันสมัย กว่าสุขศาลาชั้น 1 ของประเทศไทย )
ชาวเมืองนครพนมในยุคสมัยนั้น เจ็บป่วย จะไปหาหมอ ที่โรงหมอคำม่วน เมืองท่าแขก ประเทศลาว ประชาชนต้องนั่งเรือพายข้ามแม่น้ำโขง
พระพนมคนานุรักษ์ (ฮกไถ่ พิศาลบุตร ) ข้าหลวงประจำจังหวัดนครพนม มองเห็นความลำบากของประชาชน จึงหาแนวทางที่จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ไปพร้อมกับการพัฒนาเมืองนครพนมให้เจริญก้าวหน้าทันสมัย ท่านพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและประชาชน จึงร่วมมือร่วมใจสนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลจังหวัดนครพนม ขึ้นในระหว่างปี พ.ศ2472 – พ.ศ.2478 บนพื้นที่ใกล้หนองบึก และส่วนราชการอื่นๆ มี เนื้อที่ 49 ไร่ 2 งาน 64.7 ตารางวา อาคารโรงพยาบาลนครพนมได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ.2480 ขยายจากสุขศาลาชั้น 1 เป็นโรงพยาบาลจังหวัดนครพนม ขนาด 60 เตียง โดย นายแพทย์ดุสิต โชตินันท์ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนมคนแรก
(เรื่องเล่าจากคุณแม่ธารา ศรีเบ็ญจา อดีตบุคลากรโรงพยาบาลนครพนม และคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ซึ่งผู้เขียนสืบค้น รับฟังนำมาเรียบเรียงบันทึกเพิ่มเติมไว้ )
บันทึกที่เป็นหลักฐานแสดงเรื่อง การสัญจร “ ข้ามแม่น้ำโขง ”
จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นเมืองชายแดนทางภาคอีสาน(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นแนวยาวตามลำแม่น้ำโขงพรมแดนด้านทิศตะวันออกติดกับเ แขวงคำม่วน สาธารรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองฝั่งโขงจะมีสายสัมพันธ์เสมือนญาติพี่น้องมีความผูกพันธ์ทั้งทางด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา วัฒนธรรม ภาษาพูดพื้นถิ่น ซึ่งการเดินทางไปมาหาสู่กัน เมื่อครั้งก่อนปี พ.ศ.2470 จะไม่มีเอกสารผ่านแดนและไม่ต้องขออนุญาตทางราชการแต่อย่างใด ปี 2470 รัฐบาลไทยทำสนธิสัญญากับประเทศฝรั่งเศล เกี่ยวกับเส้นเขตแดนในแม่น้ำโขง และสัญญาอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับกฏหมายไทย ปีพ.ศ.2478 กระทรวงมหาไทยประกาศตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม ปีพ.ศ. 2486 สถานการ์ในกลุ่มประเทศอินโดจีนเปลี่ยนแปลงเกิดสงครามอินโดจีนและสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีข้อตกลงกำหนดระเบียบจราจรชายแดนเพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝั่งที่อยู่ตามแนวชายแดนสามารถเดินทางเข้า - ออก เพื่อการค้าขายและเยี่ยมญาติ จึงกำหนดให้มีบัตรผ่านแดนที่ออกให้ประชาชนของแต่ละประเทศ เดินทางเข้า- ออกได้ตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง
(ข้อมูลจากเพจ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม “ ประวัติด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ 10 สิงหาคม 2555 08:08 เขียนโดยSuper Userฮิต:10460 )
แผนที่สถานที่ตั้งโรงพยาบาลนครพนม
270 ถนนอภิบาลบัญชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม 48000
ประวัติการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ
ตึกสงฆ์อาพาธ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้น เดียว แบบทรงปั้นหยา ปีกด้านทิศเหนือเป็นห้องผู้ป่วยรวม ปีกทิศใต้เป็นห้องเดี่ยว 6 ห้อง โถงกลาง เป็นห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ ในอดีตพระสงฆ์ที่อาพาธ จะมานอนพักรักษาตัวที่นี่ ตอนเป็นเด็กผู้เขียนก็เคยมาเยี่ยมไข้พระครูสุนทรกัลยาณพจน์ เจ้าอาวาสวัดโอกาส ที่นี้ ต่อมาก็ถูกปิดไม่ได้ใช้งานและปีแรกที่กระทรวงสาธารณสุขให้ เปิดบริการแพทย์แผนไทย กลุ่มงานเวชกรรมสังคมก็ได้ขอปรับปรุงให้แผนกแพทย์แผนไทย มาเปิดบริการนวด อบ ประคบ ต่อมาปรับปรุงเป็นห้องแยกโรคผู้ป่วยโรคซาร์ส ห้องให้ยาผู้ป่วยเคมีบำบัด และสุดท้ายก็ถูกปิดอีกครั้ง เพราะอาคารชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และทำการรื้อถอนเพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์โรคหัวใจและมะเร็ง 11 ชั้น ในสมัย นพ.ยุทธชัย ตริสกุล เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม
ข้อความที่จารึกไว้บนแผ่นหินอ่อนหน้าตึกสงฆ์ ....เขียนไว้ดังนี้ (ปัจจุบันแผ่นหินอ่อนนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ตึกพิเศษสงฆ์)
ตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลนครพนมหลังนี้ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2507 สมัยนายสง่า จันทรสาขา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายแพทย์อารี มูลพันธ์ เป็นผู้อำนวยการในราคา 266,500บาท เงินจำนวนนี้ นายสง่า จันทรสาขาและนายแพทย์ประสงค์ เศวตกนิษฐ์ ได้รวบรวมไว้เป็นจำนวนเงิน 43,248.07 บาทโดยการฉายภาพยนตร์ส่วนพระองค์
ต่อมาในปี 2507 นายสง่า จันทรสาขา ได้ขอเงินจากรัฐบาลสมัยฯพณฯจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษ ซึ่งได้รับอนุมัติเงินงบประมาณให้มา 200,000 บาท ส่วนเงินที่ยังขาดนั้น นายแพทย์อารีย์ มูลพันธ์ ได้พยายามบอกบุญเรี่ยไรแก่ผู้มีใจบุญทั้งหลายตลอดจนได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท ห้างร้านต่างๆและคณะสงฆ์ในจังหวัดนครพนม จึงได้ทำการก่อสร้างสำเร็จลงได้ด้วยดี เมื่อ 30พ.ย.2507
นายสวัสดิ์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มาเป็นประธานเปิดตึกสงฆ์หลังนี้ เมื่อ 15 พ.ค. 2508
ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาล